นอกจากหลังคาแบบกระเบื้องคอนกรีต หรือกระเบื้องเซรามิกแล้ว เมทัลชีทก็ถือเป็นวัสดุยอดนิยมในการนำมาใช้ในการมุงหลังคาบ้านในปัจจุบัน เนื่องจากเป็นวัสดุที่มีความแข็งแรง ทนทาน ทันสมัย แถมยังช่วยสะท้อนความร้อนและมีราคาที่ถูกกว่าหลังคาแบบกระเบื้องคอนกรีตหรือเซรามิก วันนี้ Hometalks จึงพามาทำความรู้จัก “ หลังคาเมทัลชีท ” รวมไปถึงข้อควรรู้ก่อนซื้อให้เหมาะกับบ้านของคุณ
หลังคาเมทัลชีทมีลักษณะและคุณสมบัติอย่างไร
หลังคาเมทัลชีท (Metal Sheet) มีลักษณะเป็นแผ่นเหล็กเคลือบสังกะสีผสมอลูมิเนียม 55% นำมาขึ้นรูปลอน สามารถใช้งานได้หลากหลาย มีคุณสมบัติช่วยป้องกันการกัดกร่อน ระบายความร้อนได้ดี มีน้ำหนักเบา น้ำไม่รั่วซึม แข็งแรงทนทาน แถมยังช่วยให้บ้านสวยงามทันสมัยขึ้นอีกด้วย
หลังคาเมทัลชีทมีกี่แบบ ?
หลังคาเมทัลชีทโดยทั่วไปสามารถแบ่งออกเป็น 4 แบบ ดังต่อไปนี้
1.แผ่นหลังคาเหล็กเมทัลชีทแบบธรรมดา
แผ่นเมทัลชีทแบบดา มีส่วนผสมหลักเป็นสังกะสีและอะลูมิเนียม ลักษณะเป็นแผ่นสีเงินบางเคลือบสารป้องกันสนิมทั้งบนและล่าง มีการรีดให้ขึ้นลอน ทึบแสง สามารถนำมาปูเป็นหลังคา โรงจอดรถ หรือนำมาทำผนังกั้นได้ ข้อดีมีราคาถูก น้ำหนักเบา ส่วนข้อเสียคือระบายความร้อนได้ไม่ดี และอาจมีเสียงที่ดังเมื่อฝนตกใส่หลังคา
2.หลังคาเหล็กเมทัลชีทแบบติดฉนวนกันร้อน PE
หลังคาเหล็กเมทัลชีทแบบติดฉนวนกันความร้อน PE (PE Foam or Polyethylene Foam) มีลักษณะเป็นแผ่นหลังคาที่มาพร้อมกับฉนวนกันความร้อน PE ซึ่งฉนวนกันความร้อน PE จะมีลักษณะเป็นแผ่นบาง ๆ ออกสีเงินอยู่ใต้ตัวหลังคาเหล็กเมทัลชีทอีกที ข้อดีของหลังคาเหล็กเมทัลชีทแบบติดฉนวนกันความร้อน PE คือสามารถลดความร้อนได้ดีกว่าแบบธรรมดาและลดเสียงเวลาฝนตกกระทบได้ในระดับหนึ่ง ส่วนข้อเสีย คือมีอายุการใช้งานเพียงแค่ 5-6 ปี เท่านั้น แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับคุณภาพของวัสดุของแต่ละยี่ห้อด้วย
3.หลังคาเหล็กเมทัลชีทแบบติดโฟม PU
หลังคาเหล็กเมทัลชีทแบบติดโฟม PU (Polyurethane Foam) มีลักษณะเป็นแผ่นหลังคาที่บุฉนวน PU แบบสำเร็จรูปพร้อมใช้งาน ความหนาของหลังคาจะอยู่ที่ 1 – 3 นิ้ว ข้อดีคือช่วยในเรื่องของการป้องกันความร้อนได้เป็นอย่างดี อีกทั้งยังสามารถลดเสียงดังขณะเกิดฝนตกอีกด้วย ส่วนข้อเสียคือมีราคาที่สูงกว่าหลังคาเหล็กเมทัลชีทแบบธรรมดา
4.หลังคาเหล็กเมทัลชีทแบบมีฉนวนกันความร้อนอยู่ระหว่างสองแผ่น
หลังคาเหล็กเมทัลชีทแบบมีฉนวนกันความร้อนอยู่ระหว่างสองแผ่น มีลักษณะเป็นหลังคาที่มีแผ่นเมทัลชีทประกบทั้งด้านหน้าและด้านหลัง โดยส่วนตรงกลางจะเป็นโฟม PU (Polyurethane Foam) ซึ่งข้อดีของหลังคาประเภทนี้คือสามารถกันความร้อนและกันเสียงได้เป็นอย่างดี อีกทั้งมีความแข็งแรงเพราะมีแผ่นเหล็กประกบทั้งสองด้าน เหมาะกับการใช้งานระยะยาว ส่วนข้อเสียคือมีราคาค่อนข้างสูงเมื่อเทียบกับแผ่นเมทัลชีททั่วไป
หากคุณกำลังคิดที่จะปูหลังคาใหม่เป็นวัสดุแผ่นเมทัลชีท หรือ หลังคาเมทัลชีท ก็ควรศึกษารายละเอียดของหลังคาเมทัลชีทแต่ละประเภท และข้อดี-ข้อเสียของแต่ละประเภทให้ดีเสียก่อนเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาตามมาภายหลัง ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับลักษณะการใช้งานในแต่ละรูปแบบบด้วย สำหรับใครที่ชื่นชอบสไตล์การตกแต่งบ้าน หรือสาระเรื่องบ้านดี ๆ ก็สามารถติดตามบทความต่อไปของเราได้ที่เพจ HomeTalks-คุยเรื่องบ้าน และในเว็บไซต์ www.HomeTalks.co