ในปัจจุบันวัสดุปูพื้นที่ได้รับความนิยมไม่แพ้กระเบื้องเลยก็คือ กระเบื้องยาง เพราะมีหลากหลายลวดลายให้เลือก ติดตั้งง่าย สามารถปูกระเบื้องยางได้ด้วยตัวเอง แถมยังมีราคาที่ถูกกว่ากระเบื้องจริงเป็นอย่างมาก เหมาะสำหรับคนที่ต้องการรีโนเวทบ้านในงบประมาณที่จำกัด วันนี้ HomeTalks จึงมาแชร์เทคนิคการปูกระเบื้องยางด้วยตัวเองให้สวยแบบมืออาชีพ พร้อมข้อดี-เสียของกระเบื้องยางแต่ละประเภทมาฝากกัน !
กระเบื้องยาง คืออะไร?
กระเบื้องยาง หรือ กระเบื้องไวนิล คือวัสดุปูพื้นที่ผลิตจาก PVC (Polyvinyl chloride) มีความยืดหยุ่นค่อนข้างสูง เนื้อสัมผัสที่เหนียวหนืด ไม่ลื่นไม่มันวาว สามารถรองรับแรงกดหรือแรงกระแทกได้ดี ทนต่อความชื้น ลดโอกาสการเกิดอุบัติเหตุได้เป็นอย่างดี อีกทั้งยังทำความสะอาดและติดตั้งง่าย ไม่ต้องใช้เครื่องมือเยอะก็สามารถปูกระเบื้องยางด้วยตัวเองได้
เทคนิคการปูกระเบื้องยางด้วยตัวเอง
1.ตรวจสอบพื้นบ้านก่อนปูกระเบื้องยาง
ก่อนที่จะทำปูกระเบื้องยางเราจะต้องทำการตรวจสอบพื้นบ้านเราก่อนว่าเรียบเสมอกันหรือยัง หากพื้นบ้านยังขรุขระไม่เรียบ การปูกระเบื้องยางก็จะออกมาไม่เรียบเนียนเช่นเดียวกัน
2.เตรียมอุปกรณ์ก่อนทำการติดตั้ง
จัดเตรียมอุปกรณ์การปูกระเบื้องให้พร้อมดังนี้
- กาวขาวสำหรับปูกระเบื้อง
- คัตเตอร์
- ตลับเมตร
- ลูกกลิ้ง 30 – 50 กิโลกรัม
- กาวยาง
- เหล็กแซะ
- หินขัดพื้นชนิดหยาบ
- เชือกตีฝุ่นคลุก
- เกรียงลงกาว
- พัดลม
- ไม้ม็อบถูพื้น
- ไม้กวาด
3.เลือกจุด/แนวเส้นในการปูกระเบื้องให้ถูกต้อง
ต้องกำหนดแนวเส้นหรือเลือกจุดในการปูกระเบื้องยางให้ถูกต้อง ถ้าหากเป็นห้องขนาดเล็กควรเริ่มติดตั้งจากประตูเข้าไปด้านใน แต่ถ้าห้องขนาดใหญ่ควรใช้แนวกลางห้องเป็นจุดเริ่มต้น โดยใช้ด้านยาวของห้องเป็นหลัก แล้วกำหนดแนวเส้นให้ขนานกับกำแพง
4.ใส่ใจกับการลงกาว
สำหรับการลงกาวในการปูกระเบื้องยาง ให้ผสมกาวในถังให้เรียบร้อยก่อนแล้วค่อยเทกาวลงบนพื้นครั้งละประมาณ 1-2 กิโลกรัม ปาดกาวให้สม่ำเสมอและไม่ควรลงกาวเกินกว่า 30 ตารางเมตร
5.ดูแลหลังจากติดตั้งกระเบื้องยางเสร็จ
หลังจากที่เราติดตั้งกระเบื้องยางเสร็จเรียบร้อยแล้ว ไม่ควรใช้น้ำล้างทำความสะอาดทันที ควรปล่อยให้กาวแห้งก่อนสัก 2-3 วัน และห้ามเคลื่อนย้ายสิ่งของที่มีน้ำหนักมากอย่างเช่น โต๊ะ เตียงนอน ตู้เก็บของ เข้ามาภายในพื้นที่ที่ปูกระเบื้องยางภายในระยะเวลา 1 สัปดาห์
ข้อดี-เสียของกระเบื้องยางแต่ละประเภท
กระเบื้องยางนั้นมีหลายประเภทหลายแบบให้เลือกใช้กับบ้าน ไม่ว่าจะเป็น กระเบื้องยางลายไม้ กระเบื้องยางหินอ่อน กระเบื้องยางแบบคลิ๊กล็อค ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความชอบและรสนิยมส่วนตัวของเจ้าของบ้าน มาดูกันดีกว่าว่าแต่ละประเภทนั้นมีข้อดี-ข้อเสียต่างกันอย่างไร เพื่อประกอบการตัดสินใจในการปูกระเบื้องยางให้บ้านของคุณ
1.กระเบื้องยางลายไม้
กระเบื้องยางลายไม้มีข้อดีตรงที่ป้องกันน้ำและปลวกได้ 100% ราคาถูก สามารถทนน้ำ ทนไฟ และเกิดรอยขีดข่วนได้ยาก ส่วนข้อเสียของกระเบื้องยางลายไม้คือสามารถเกิดการหดตัวได้ และขนาดของกระเบื้องอาจไม่เท่ากันขึ้นอยู่กับพื้นที่ขนาดห้องของแต่ละบ้าน
2.กระเบื้องยางหินอ่อน
กระเบื้องยางลายหินอ่อน มีข้อดีคือมีน้ำหนักที่เบา ติดตั้งง่าย ให้อารมณ์เหมือนกับหินอ่อนจริง ๆ แต่มีราคาถูกที่กว่าหลายเท่าตัว ส่วนข้อเสียคือต้องติดตั้งกับพื้นที่เรียบเท่านั้น ถ้าอยากติดตั้งทับกระเบื้องที่มีร่อง ก็จะต้องทำการลงยาแนวตามร่องก่อนถึงปูกระเบื้องยางลายหินอ่อนได้
3.กระเบื้องยางแบบคลิ๊กล็อค (Vinly Click Lock)
ข้อดีของกระเบื้องยางแบบคลิ๊กล็อค คือมีระบบคลิ๊กเพื่อล๊อคในตัว ไม่ต้องใช้กาวปู ติดตั้งง่าย รวดเร็ว อีกทั้งยังสามารถรื้อไปใช้ที่อื่นได้ในภายหลัง โดยไม่ทำให้พื้นเดิมเสียหาย ทนต่อแรงกดทับ มีความคงทนสูง ส่วนข้อเสียจะคล้าย ๆ กับกระเบื้องยางลายหินอ่อนคือต้องปรับระดับพื้นให้เท่ากันก่อนทำการปูกระเบื้องยาง
เป็นอย่างไรกันบ้างกับเทคนิคการ ปูกระเบื้องยาง และข้อดี-ข้อเสียของกระเบื้องยางแต่ละประเภทที่ HomeTalks นำมาฝากกัน ใครมีแพลนอยากแปลงโฉมบ้านใหม่ด้วยกระเบื้องยางก็อย่าลืมศึกษาข้อมูลและเทคนิคการปูดี ๆ ก่อนค่อยทำการปูกระเบื้องยางจริง เพื่อไม่ให้เกิดความเสียหายกับกระเบื้องและเสียเวลาซ่อมแซมในภายหลัง สำหรับใครที่ชื่นชอบสไตล์การตกแต่งบ้าน หรือสาระเรื่องบ้านดี ๆ ก็สามารถติดตามบทความต่อไปของเราได้ที่เพจ HomeTalks-คุยเรื่องบ้าน และในเว็บไซต์ www.HomeTalks.co